การเสริมหน้าผาก เป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งมีความเสี่ยงในการทำเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น การเลือกเสริมหน้าผาก ที่ไหนดี ต้องเลือกอย่างรอบคอบเพื่อความปลอดภัย ต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง
เสริมหน้าผาก คือ
การเสริมหน้าผาก คือ นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากที่มีปัญหา ไม่ได้รูป เช่น ผู้ที่มีปัญหาหน้าผากสั้น หน้าผากแบน หน้าผากบุ๋มหรือยุบจากอุบัติเหตุต่าง ๆ โดยจะช่วยปรับแต่งโครงหน้าบริเวณหน้าผากให้สอดรับกับใบหน้าส่วนอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น
โดยการใช้ซิลิโคนเเผ่นที่ถูกหล่อขึ้นมาโดยการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเเละได้รับความนิยมอย่าง CT SCAN ในการเอ็กซเรย์เราจะสามารถได้เห็นภาพที่ถูกต้องแม่นยำตรงตามความต้องการของหน้าผากเเต่ละบุคคล (3D Customized Silicone Implant) หรือจะใช้ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป (Preformed Silicone) โดยลักษณะซิลิโคนถูกออกแบบมาสำเร็จรูปแล้วพร้อมที่จะใส่ได้ทันที
เสริมหน้าผาก ที่ไหนดี เลือกจากอะไรบ้าง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การตัดสินใจเสริมหน้าผาก ต้องมีการหาข้อมูลมาบ้างแล้ว แต่ยังลังเลว่า เสริมหน้าผาก ที่ไหนดี เลือกจากอะไรถึงจะปลอดภัย วันนี้เรามีวิธีการเลือกที่ปลอดภัยมาแนะนำ ดังนี้
เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวจากเคสจริง
ต้องเลือกคลินิกจากผลงานของแพทย์ มีภาพรีวิวจริง เป็นเคสจริงให้ดู ยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นตัวการันตีถึงฝีมือ และประสบการณ์ของแพทย์ และช่วยให้เราสบายใจว่ามาทำที่คลินิก ปลอดภัยแน่นอน เพราะมีรีวิวจริงให้ดูเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น
แพทย์ที่ทำได้หลายเทคนิค จะแก้ปัญหาแต่ละคนได้อย่างตรงจุด
ปัญหาของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป ดังนั้นเทคนิคที่ต้องใช้ในการผ่าตัดจึงไม่เหมือนกัน ดังนั้นแพทย์ที่มีประสบการณ์การผ่าตัดหลายเทคนิคจะเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละคน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด แพทย์บางท่านถนัดแค่บางเทคนิคก็จะใช้แค่เทคนิคเดียวกับทุกคน ซึ่งอาจจะเหมาะกับบางคน แต่ไม่เหมาะกับบางคน หากแพทย์ใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสมก็เหมือนกับการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ผลลัพธ์ก็จะออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
เครื่องมือและสถานที่สะอาดเรียบร้อย
สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือสถานที่ในการเสริมหน้าผาก ความสะอาดของสถานที่ เครื่องมือที่ใช้ผ่าตัดถูกทำความสะอาด ฆ่าเชื้ออย่างดี มีการรับรองมาตรฐาน เพราะการศัลยกรรมถือว่าเป็นการผ่าตัดขนาดใหญ่ หากสถานที่ไม่สะอาดก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อเป็นอย่างมาก
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
- งดทานยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน / สูบบุหรี่/ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ / อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าผาก
- เตรียมตัวลาพักงานประมาณ 1 อาทิตย์
- ควรพาเพื่อนหรือญาติมาด้วยในวันเสริมหน้าผาก เพราะหลังจากทำแล้วอาจจะมีอาการเวียนหัวได้เนื่องจากการเสียเลือด
- ถ้ามีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที ก่อนการผ่าตัด มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายได้
- คนที่เป็นโรคหัวใจ ที่ต้องกินยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าผาก
- คนที่กินยา Cumadin เพื่อป้องกันภาวะการแข็งตัวของเส้นเลือดดำที่ขาหรือในผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวและหยุดยาก่อนมารับการผ่าตัดเสริมหน้าผาก
- สำหรับคนที่ทานสมุนไพรบางชนิด เช่น น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูงๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหมอ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติ หรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัดได้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน เพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 7-10 วัน
- แนะนำให้สระผมมาก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- คนที่มีโรคความดันสูงต้องควบคุมความดันให้เป็นปกติก่อนที่จะเสริมหน้าผากสัก 2 อาทิตย์
ขั้นตอนการศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
ในการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าผากจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง ซึ่งขึ้นอยู่กับกรณีของแต่ละบุคคลด้วย ขั้นตอนของการผ่าตัดเสริมหน้าผากมีดังนี้
- ขั้นตอนแรกทำการวัดและวาดแนวกรีด และทำการมัดผม
- ต่อจากนั้นทำความสะอาดใบหน้าและหนังศีรษะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- จากนั้นแพทย์จะวางซิลิโคนที่หน้าผาก และทำการวาดตามแผ่นซิลิโคน เพื่อเป็นกำหนดตำแหน่งของซิลิโคน
- คุณหมอจะฉีดยาชาที่บริเวณจะทำการผ่าตัดเสริมหน้าผาก
- เปิดแผลที่ศีรษะห่างจากไรผมมา 1 ซม. กรีดเป็นแนวซิกแซก เปิดแผลจะยาวประมาณ 3-4 ซม.
- เปิดเลาะหนังศีรษะจนถึงโหนกคิ้วจัดวางซิลิโคนให้พอดีกับ ใส่ซิลิโคนที่ใช้เสริมเข้าไป แล้วปรับให้แผ่นได้พอดี ไม่มีส่วนไหนย่นหรือห่อตัว จากนั้นก็เย็บปิด ไม่มีการโกนผม
- หลังผ่าตัด ให้ทำการล้างผมให้สะอาด ให้ใช้น้ำเปล่าล้างไม่ใช้แชมพู
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ กินยาแก้ปวดทุก 4 ช.ม. เป็นเวลา 2 วันติดต่อกันหลังจากการผ่าตัด
- สามารถไปทำงานได้หลังผ่าตัด 3-7 วัน อาจมีอาการบวมช้ำที่บริเวณผ่าตัดเสริมหน้าผาก โดยทั่วไปควรประคบน้ำอุ่น ใน วันที่ 3-7 จะช่วยลดอาการเขียวช้ำได้
การดูแลตัวเอง หลังศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
- ให้ประคบเย็นบริเวณหน้าผากประมาณ 2 วันแรก แต่หลังจากนั้นให้ทำการประคบอุ่น วิธีนี้จะช่วยให้อาการปวดบวมลดลงได้
- ล้างหน้า สระผมได้ตามปกติ หลังจาก 1 เดือนที่ทำการผ่าตัดสามารถทำสีผมได้ กรณีแผลเปียกน้ำให้เช็ดให้แห้งแล้วเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทันที
- ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในรูปแบบหนักๆเป็นเวลาประมาณ 2-3 เดือน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนหน้าผาก เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะทำให้ซิลิโคนผิดรูปทรงได้
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ กินยาแก้ปวดทุก 4 ช.ม. เป็นเวลา 2 วันติดต่อกันหลังจากการผ่าตัด
- ให้นอนราบไม่ต้องหนุนหมอน เพื่อลดอาการบวมที่ใบหน้าและรอบดวงตา
- การตัดไหมสามารถทำได้หลังจากการผ่าตัดเสริมหน้าผากประมาณ 2 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดอาการแพ้ยา เช่น มีอาการผื่นแดง คัน คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ให้มาพบแพทย์ทันที
- เข้าไปพบแพทย์ตามใบนัด หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที
ข้อดีของการศัลยกรรมเสริมหน้าผาก ด้วยซิลิโคน
การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนมีข้อดีหลายประการ ดังนี้
- ซิลิโคนคงรูป ไม่เคลื่อนที่ไปมา ทำให้ได้รูปทรงหน้าผากตามต้องการ
- ซิลิโคนมีความคงทน อายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน (อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับคุณภาพของซิลิโคน)
- หากผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่พึงพอใจในรูปทรงหรือต้องการแก้ไขเพิ่มเติม สามารถผ่าตัดนำซิลิโคนออกได้
- สามารถปรับแต่งซิลิโคน เลือกความสูงได้ 3 ระดับคือ นูนน้อย นูนปานกลาง และนูนสูง ขึ้นอยู่กับรูปหน้าของแต่ละคน หากเป็นคนหน้าผากแบนมาก ศัลยแพทย์มักแนะนำให้ใช้ซิลิโคนนูนสูง
สรุป
การเสริมหน้าผาก เป็นการศัลยกรรมขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้ความรอบคอบและความระมัดระวังอย่างมากในการเลือก เสริมหน้าผาก ที่ไหนดี การตัดสินใจต้องเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง เลือกคลินิกที่สะอาด และรีวิวจากเคสจริง เพื่อความปลอดภัย
