คาง เป็นบริเวณสำคัญที่มีผลต่อรูปหน้ามากที่สุด ผู้คนจึงให้ความสนใจทำคาง ที่ไหนดี เพราะการมีคางที่สมส่วนได้รูปความยาวรับกับสัดส่วนหน้าพอดี จะทำให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น นอกจากจะเป็นการปรับรูปหน้าให้สวยขึ้นอย่างโดดเด่นแล้ว การเสริมคางยังเป็นการปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นด้วย
การทำคาง คือ
การทำคาง คือ เป็นการปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูเรียวยาวมากขึ้น นิยมเสริมคางกับคนที่มักมีปัญหาหน้ากลม คางสั้น คางทู่ คางบุ๋ม มองแล้วดูไม่มีมิติ ซึ่งคนเอเชียส่วนมากจะมีลักษณะคางที่สั้นและไม่สมส่วนกับใบหน้า เมื่อเสริมคางแล้วจะทำให้ใบหน้า ได้สัดส่วนมากขึ้น และในภาพรวมจะดูละมุนหวานขึ้นแถมยังช่วยในเรื่องโหงวเฮ้งอีกด้วย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ปัญหาคางจะแตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แพทย์ที่ทำการรักษาต้องมีเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดไม่เหมือนกัน ดังนั้น แพทย์จะต้องมีประสบการณ์การผ่าตัดมาอย่างมากมาย เพื่อนำหลายเทคนิคมาใช้ และเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับตัวบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เพราะเมื่อคนไข้เลือกแล้ว แพทย์ต้องทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้คนไข้ประทับใจที่สุด
เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวจากเคสจริง
ต้องเลือกคลินิกที่มีผลงานของแพทย์ ที่เป็นภาพรีวิวจริง เป็นเคสจากคนไข้จริงให้ดู ยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นตัวการันตีถึงฝีมือ และประสบการณ์ของแพทย์ และช่วยให้เราไว้วางใจว่ามาทำที่คลินิก ปลอดภัยแน่นอน
เครื่องมือและสถานที่สะอาดเรียบร้อย
สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือสถานที่ในการเสริมคาง ความสะอาดของสถานที่ เครื่องมือที่ใช้ผ่าตัดถูกทำความสะอาด ฆ่าเชื้ออย่างดี มีการรับรองมาตรฐาน เพราะการศัลยกรรมถือว่าเป็นการผ่าตัดขนาดใหญ่ หากสถานที่ไม่สะอาดก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อเป็นอย่างมาก
ก่อนศัลยกรรมเสริมคางต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
หลังจากปรึกษาแพทย์และตัดสินใจผ่าตัด ศัลยกรรมเสริมคาง แล้ว ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้การผ่าตัดเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด โดยการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดมีรายละเอียด ดังนี้
- หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- งดน้ำงดอาหารทุกชนิดก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง
- แปรงฟันและทานอาหารให้พร้อมก่อนผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดมักทานอาหารได้น้อย
- งดยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น แอสไพริน
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์
- ควรพาญาติหรือบุคคลใกล้ชิดมาด้วยในวันผ่าตัดงดอาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัดเสริมคาง รวมถึงสมุนไพรบางชนิด เช่น อีฟนิงพริมโรส ยาวิตามิน E ปริมาณสูงๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อย่างน้อย 3-7 วัน เพราะอาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด
ขั้นตอนการศัลยกรรมเสริมคาง
การเสริมคาง มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- บ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนรับการผ่าตัด เพื่อเป็นการเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในปาก
- นอนพักในห้องผ่าตัด เพื่อตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจรก่อนรับการผ่าตัด
- แพทย์จะให้ยานอนหลับเพื่อลดความกังวล แล้วจึงค่อยฉีดยาชา เพื่อไม่ให้ไม่มีอาการเจ็บปวดในระหว่างการผ่าตัด
- ผ่าตัด ศัลยกรรมเสริมคาง โดยใช้ซิลิโคน และเย็บแผลด้วยไหมละลาย โดยไม่ต้องตัดไหม
- นอนพักที่ห้องพักฟื้นและประคบน้ำแข็งบริเวณที่ทำการผ่าตัด และนอนสังเกตอาการประมาณ 30 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ หลังการผ่าตัด และสามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนค้าง
วิธีดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมเสริมคาง
เมื่อผ่าตัด ศัลยกรรมเสริมคาง เสร็จแล้วก็ยังคงต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งคัด โดยวิธีดูแลตัวเองหลัง ศัลยกรรมเสริมคาง โดยทั่วไป มีดังนี้
- ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง พร้อมดูแลแผลอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
- ควรรับประทานอาหารที่เคี้ยวง่าย เช่น อาหารอ่อนหรืออาหารเหลว และหลีกเลี่ยงการขยับปากในช่วงแรก
- หมั่นบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด น้ำเกลือ หรือนำยาบ้วนปาก ทุก 2-3 ชั่วโมงและทุกครั้งหลังอาหาร เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดในช่องปาก
- หลังผ่าตัดจะมีอาการบวม จึงควรประคบเย็นอย่างน้อย 48 ชั่วโมง โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงประมาณ 2 สัปดาห์
- หลังการผ่าตัดในภายในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดกิจกรรมที่ทำให้บาดแผลกระทบกระเทือน เช่น การวิ่ง กระโดด และห้ามเท้าคางเด็ดขาด
- ช่วงแรกๆ ให้นอนหงาย และหนุนหมอนสูงๆ เพื่อลดอาการบวม และอาการเลือดคั่ง
- งดทานอาหารรสจัด อาหารร้อน ของหมักดอง และอาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยว รวมถึงงดของสุกๆ ดิบๆ เพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนได้
- ดื่มน้ำมากๆ โดยควรใช้หลอดดูด เพื่อลดการขยับคาง
- งดการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดสูบฉีดขึ้นใบหน้ามาก จะทำให้หน้าบวมได้
- ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณคาง ไม่ควรยิ้มหรือหัวเราะมากจนเกินไป และระมัดระวังไม่ให้เกิดแรงกระแทกมากระทบซิลิโคนมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ซิลิโคนที่ยังเกาะติดแน่นกับขอบกระดูกไม่ดีพอขยับเขยื้อนได้
- หากมีอาการผิดปกติจากการศัลยกรรม หรือสงสัยว่าตัวเองมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ผลข้างเคียงของการศัลยกรรมเสริมคาง
หลังจากผ่าตัด ศัลยกรรมเสริมคาง ใบหน้าจะยังไม่เข้ารูปในทันที และอาจมีผลข้างเคียงบ้าง ดังนี้
- ผู้ที่อาจเป็นอันตรายและไม่ควรทำการ ศัลยกรรมเสริมคาง ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคลมชัก โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคเลือดและสตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- หลังการ ศัลยกรรมเสริมคาง อาจเกิดอาการชาบริเวณคาง ริมฝีปาก ฟันล่างด้านหน้า เนื่องจากเส้นประสาทถูกรบกวนจากการผ่าตัด แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเกิดเพียงชั่วคราว อาการชาจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ และฟื้นได้ในเวลาประมาณ 1-3 เดือน
- หากมีรอยเขียวช้ำหลังจากการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์ ให้ประคบด้วยน้ำอุ่นบริเวณรอยเขียวช้ำ เพื่อให้รอยเขียวช้ำหายเร็วขึ้น
- อาการบวมมักจะยุบลงและได้รูปร่างของคางใหม่ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน หลังการผ่าตัด
- หากมีการกระแทกหรือกระทบอะไรแรงๆ อาจะส่งผลให้ก็อาจส่งผลให้คางเอียงได้ โดยเฉพาะในช่วงประมาณ 1 เดือนหลังการผ่าตัด จะต้องแก้ไขโดยการผ่าเพื่อเข้าจัดคางใหม่
ศัลยกรรมเสริมคาง เจ็บไหม ?
การศัลยกรรมเสริมคาง เป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ที่ทำการผ่าตัดร่วมกับการฉีดยาชา ดังนั้น ความรู้สึกเจ็บ จะมีแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้น หลังยาชาออกฤทธิ์ ระหว่างที่ผ่าตัด จนเสร็จ ดังนั้นคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังยาชาหมดฤทธิ์ อาจจะมีอาการตึงเล็กน้อย หรือรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อย ซึ่งสามารถรับประทานยาแก่ปวดได้ รวมถึงมีการประคบเย็นช่วย เพื่อลดปวดและลดบวม หลังผ่าตัดเสร็จ สามารถเดินทางกลับบ้านพักฟื้นได้ โดยไม่ต้องพักฟื้นที่คลินิก
สรุป
การทำคาง เป็นการปรับแต่งรูปคางให้ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น เพื่อความสมดุลของใบหน้า ดังนั้นจึงมีความสำคัญไม่แพ้กับการทำศัลยกรรมหัตถการอื่น ๆ เลย จึงจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก การทำคาง ที่ไหนดี จึงต้องเลือกอย่างรอบคอบเพื่อความปลอดภัย และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด